ตลาดเครื่องยิงกระดูกในปี 2025 จะมีมูลค่าทะลุ 5.3 พันล้าน ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลายเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของโลก
รายงานอุตสาหกรรมล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ตลาดเครื่องปั๊มลายใบไม้และกระดูกแบบไฮดรอลิกอัตโนมัติสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 ขนาดตลาดมีมูลค่าถึง 4,860 ล้านหยวน และคาดว่าจะทะลุ 5,300 ล้านหยวนในปี 2025 ขณะที่ในปี 2030 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8,200 ล้านหยวน ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นเฉลี่ยต่อปีที่รักษาไว้ที่ 9.2% แนวโน้มการเติบโคนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากความต้องการยกระดับระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมรองเท้าและกระเป๋า ซึ่งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องครองสัดส่วนมากกว่า 75% ของตลาดปลายทาง
รายงานอุตสาหกรรมล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ตลาดเครื่องปั๊มลายบนใบไม้และกระดูกแบบไฮดรอลิกที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 มูลค่าตลาดสูงถึง 4,860 ล้านหยวน และคาดว่าจะทะลุ 5,300 ล้านหยวนในปี 2025 ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะ 8,200 ล้านหยวนในปี 2030 ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปียังคงอยู่ที่ 9.2% แนวโน้มการเติบโคนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากความต้องการยกระดับระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมรองเท้าและกระเป๋า ซึ่งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องครองสัดส่วนมากกว่า 75% ของตลาดปลายทาง
จากมุมมองของโครงสร้างภูมิภาค ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการเติบโต โดยคาดว่าในปี 2025 ยอดส่งออกจะสูงถึง 335,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วน 62.4% ของยอดรวมทั่วโลก ทั้งนี้ ตลาดจีนแสดงผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยมียอดส่งออกปีเดียวสูงถึง 182,000 เครื่อง คิดเป็น 54.3% ของยอดรวมในเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่พื้นที่อย่างฝูเจี้ยนและกว่างตง กำลังก่อตัวเป็นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่มีพลวัตรชัดเจน สิ่งที่น่าจับตามองคือ อุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศกำลังเร่งเข้ามาแทนที่สินค้านำเข้าอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอย่างตงกวนหงไถ และเหวยโจวจินลี่ต๋า ซึ่งสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบเซอร์โวควบคุมและระบบไฮดรอลิกจนทำให้ราคาเครื่องจักรระดับไฮเอนด์ลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับอุปกรณ์นำเข้า พร้อมทั้งยังสามารถแข่งขันได้ในด้านตัวชี้วัดหลัก เช่น ความเสถียรของแรงดันและความคมชัดของลวดลาย ในระดับนโยบาย โครงการเงินสนับสนุนเฉพาะด้านการผลิตอัจฉริยะภายใต้แผน "สี่ปีที่ห้า" กำลังเสริมศักยภาพให้อุตสาหกรรมอย่างต่อเนเนื่อง พร้อมผลักดันให้อุปกรณ์มีการอัปเกรดสู่ระบบอัจฉริยะ เช่น การตรวจสอบระยะไกลและการวินิจฉัยความผิดพลาดแบบอัตโนมัติ
แท็ก:
บทความที่เกี่ยวข้อง